Share

วิธีเช็คทองแท้ ทองปลอม สังเกตยังไงก่อนซื้อไม่ให้โดนหลอก

29 ตุลาคม 2568
วิธีเช็คทองแท้

ปัจจุบัน ‘ทองคำ’ เป็นตัวเลือกที่เหมาะกับการลงทุนอย่างมาก ทั้งเก็บไว้เก็งกำไร หรือเก็บเป็นทรัพย์สิน และจากความนิยมของทองคำ ทำให้มีทองคำปลอมมากมายออกวางจำหน่ายมาในท้องตลาด เกิดเป็นความเสี่ยงอย่างมากสำหรับคนที่ชอบซื้อทอง

ในบทความนี้ เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีเช็คทองแท้ไปพร้อมกัน ว่าจะสามารถเช็คทองจริงหรือปลอมได้อย่างไร รู้จักวิธีการเช็คทองแท้ให้รอบคอบก่อนซื้อ ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับคนที่ชื่นชอบการซื้อทองได้อย่างแน่นอน

ทำความรู้จัก “ทองคำ” คืออะไร?

ทองคำ คืออะไร

ก่อนเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีเช็คทองแท้ การเลือกซื้อทองคำควรเริ่มจากความเข้าใจเกี่ยวกับทองคำเสียก่อน เพราะเป็นส่วนที่จะช่วยทำให้ความเข้าใจในการเช็คทองว่าแท้หรือปลอมได้ง่ายขึ้น โดยทองคำเป็นธาตุโลหะมีค่า มีความอ่อนตัวตามธรรมชาติ จึงมักต้องผสมโลหะอื่นเพื่อเพิ่มความแข็งแรงเมื่อนำมาทำเครื่องประดับ 

ซึ่งส่วนผสมดังกล่าวยังมีผลต่อโทนสีที่จะทำให้ทองมีสีแตกต่างกันออกไป เช่น การผสมทองแดงจะเกิดโทนชมพู (Rose Gold) หรือการผสมนิกเกิลหรือพาลาเดียม จะได้โทนขาว (White Gold) เป็นต้น ส่งผลให้ทองคำสามารถตอบโจทย์ทั้งด้านความงาม และการใช้งานที่หลากหลายยิ่งขึ้น

ทองคำแท้

ในบริบทของตลาดไทย ทองคำแท้ที่พบได้ทั่วไป คือ ทองคำ 96.5% หรือ 23K ซึ่งมีความสมดุลระหว่างความงาม ความแข็งแรง และสภาพคล่องในการซื้อขาย ส่วนทองคำ 99.9% หรือ 24K จะมีความบริสุทธิ์สูงกว่า แต่เนื้อนิ่มกว่า จึงนิยมในรูปแบบทองคำแท่ง หรือชิ้นงานที่ไม่รับแรงกระแทกมากนัก โดยทั้ง 2 รูปแบบจะมีความแตกต่างด้านความบริสุทธิ์ ที่ส่งผลต่อความทนทาน การดูแลรักษา และราคารับซื้อคืนโดยตรง

ทองคำเปอร์เซ็นต์ต่ำ หรือ ทองเค

ทองเค หมายถึง ทองคำที่ผสมโลหะอื่นในสัดส่วนสูงขึ้น และวัดความบริสุทธิ์เป็นกะรัต (K) เช่น 9K ≈ 37.5%, 14K ≈ 58.5% หรือ 18K ≈ 75% การมีโลหะผสมมากขึ้นจะช่วยเพิ่มความแข็งแรง ทำให้เหมาะกับการใส่ในชีวิตประจำวัน อีกทั้งยังปรับเฉดสีได้หลายรูปแบบ ทั้ง Yellow, Rose และ White Gold อย่างไรก็ตาม เมื่อเปอร์เซ็นต์ทองต่ำลง มูลค่าต่อกรัมและสภาพคล่องในการขายคืน ก็ย่อมต่ำกว่าทองไทยมาตรฐาน 96.5% ด้วยเช่นกัน

ทองคำชุบ หรือ ทองปลอม

งานชุบทอง คือ การเคลือบทองคำชั้นบาง ๆ บนโลหะฐาน เช่น เงิน ทองเหลือง หรือสเตนเลส เพื่อให้มีลักษณะภายนอกคล้ายทองแท้ แม้จะมีราคาย่อมเยาและให้ภาพลักษณ์สวยงามในระยะสั้น แต่เนื้อในก็ไม่ใช่ทองคำจริง จึงไม่เหมาะสำหรับการลงทุนทอง และสีอาจซีดจางหรือหลุดลอกเมื่อใช้งานต่อเนื่อง แตกต่างจากทองแท้หรือทองเคอย่างชัดเจน ทั้งในเชิงมูลค่าและอายุการใช้งาน

ทองคำแต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร?

ทองคำสามารถแบ่งแยกได้เป็นหลากหลายประเภท ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้ก่อนไปสู่หัวข้อวิธีเช็คทองแท้ให้ถูกต้อง เพราะการทำความเข้าใจแต่ละรูปแบบ จะทำให้การเลือกวิธีเช็คทองจริงและทองปลอมด้วยตัวเองมีความแม่นยำได้มากยิ่งขึ้น โดยประเภทหลัก ๆ ของทองคำในปัจจุบันจะแบ่งแยกได้ ดังนี้

  • ทองคำแท่ง : ทองที่หลอมขึ้นรูปเป็นแท่งหรือแผ่นภายใต้มาตรฐานความบริสุทธิ์สูง เช่น 96.5% ถึง 99.9% เหมาะสำหรับเก็บออมและลงทุน เพราะส่วนต่างราคาระหว่างซื้อ-ขายไม่มาก ทำให้คงมูลค่าได้ค่อนข้างสูง
  • ทองรูปพรรณ : ทองที่ทำเป็นเครื่องประดับ เช่น สร้อย แหวน หรือกำไลทองคำ เหมาะกับการสวมใส่และเก็งกำไรควบคู่กัน แต่มีค่ากำเหน็จทองและประเมินสภาพเมื่อขายคืน ทำให้มูลค่าอาจต่ำกว่าทองแท่งเล็กน้อย
  • ทองคำขาว (White Gold) : โลหะผสมที่มีทองคำเป็นหลัก เติมโลหะสีขาวและมักชุบโรเดียมให้เงาขาว แข็งแรง เหมาะกับตัวเรือนเพชรหรืออัญมณี เพิ่มความหรูหราในการตกแต่ง
  • ทองเค (Karat Gold) : ระบุความบริสุทธิ์เป็นกะรัต เช่น 8K, 10K, 14K, 18K หรือ 24K จะมีเนื้อแข็งทนกว่าทองบริสุทธิ์ แต่เปอร์เซ็นต์ทองต่ำกว่ามาตรฐานไทย 96.5% เป็นต้นไป

9 วิธีเช็คทองแท้และตรวจสอบทองปลอมอย่างแม่นยำ

วิธีการเช็คทองแท้ให้แม่นยำ

การเช็คว่าทองจริงหรือปลอม ไม่ว่าจะเป็นวิธีเช็คแหวนทองแท้ หรือวิธีเช็คสร้อยทองแท้ จะมีวิธีการที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งหากต้องการวิธีเช็คทองแท้ให้ได้ผล สามารถเลือกทำตามวิธีต่าง ๆ ดังนี้

1. ตรวจตราประทับ ใบรับรอง หรือใบรับประกันแหล่งที่มา

ทองแท่งมาตรฐาน จะมีเครื่องหมายโรงหลอมหรือผู้ผลิต น้ำหนัก และความบริสุทธิ์ ประทับบนตัวแท่ง และมักมาพร้อมใบรับประกันจากร้านทอง ซึ่งใช้เป็นวิธีการเช็คว่าเป็นทองจริงหรือทองปลอมที่ดีที่สุด ควรเช็คว่ารายละเอียดบนแท่งและบัตรตรงกัน และมีสัญลักษณ์ตรงตามโรงหลอมหรือผู้ผลิตที่ได้รับการยอมรับหรือไม่ โดยวิธีนี้เป็นวิธีเช็คทองแท้ด้วยตัวเองที่ง่ายและสะดวกมากที่สุด

2. ชั่งน้ำหนัก วัดขนาด และคำนวณความหนาแน่น

หนึ่งในวิธีเช็คทองปลอม คือ การเปรียบเทียบน้ำหนักทองและขนาดกับสเปคผู้ผลิตและใบรับรอง หากน้ำหนักไม่ตรง ขนาดผิดเพี้ยน หรือความหนาแน่นคำนวณแล้วคลาดเคลื่อนมาก ก็เป็นสัญญาณผิดปกติที่ทำให้สามารถรับรู้ได้ว่าทองที่ได้มานั้นมีโอกาสปลอมสูง

3. คัดกรองด้วยแม่เหล็กและเสียง

ทองคำแท้นั้นไม่ได้มีคุณสมบัติเป็นเหล็ก การทดสอบด้วยแม่เหล็กแรงสูง จึงช่วยคัดกรองของปลอมที่มีโลหะฐานแม่เหล็กได้บ้าง รวมถึงการฟังเสียงเมื่อกระทบเบา ๆ ก็สามารถทำได้หากมีความเชี่ยวชาญมากพอ โดยจะเป็นการเช็คตามความกังวานของเสียงเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม วิธีเช็คทองจริงหรือปลอมรูปแบบนี้ เป็นได้แค่เพียงการคัดกรองเบื้องต้นเท่านั้น ยังจำเป็นต้องยืนยันด้วยวิธีอื่น ๆ ที่แม่นยำมากกว่าเพิ่มเติม

4. การใช้ X-Ray Fluorescence (XRF)

XRF จะเป็นการใช้รังสีเอกซ์กระตุ้นอะตอมบนผิวแล้วอ่านสเปกตรัมเพื่อบอกสัดส่วนธาตุ เช่น Au, Ag และ Cu ได้อย่างรวดเร็วและไม่ทำลายทอง เหมาะสำหรับตรวจยืนยันเปอร์เซ็นต์และคัดกรองการชุบ แต่ข้อจำกัดคือเป็นการวัดเพียงผิวชั้นตื้นของทองเท่านั้น จึงอาจไม่เห็นโลหะต่างชนิดที่ซ่อนอยู่ภายในชั้นหนา ๆ ทำให้ต้องใช้ร่วมกับวิธีอื่นในการเช็คทองว่าจริงหรือปลอมเพื่อความแม่นยำด้วยเช่นกัน

5. เช็คค่าการนำไฟฟ้าและโลหะ

ในปัจจุบันมีเครื่องตรวจแบบกระแสไหลวน หรือ Eddy Current ที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้วัด “ค่าการนำไฟฟ้า” ที่เป็นเอกลักษณ์ของทองคำโดยเฉพาะ ก่อนจะนำไปเปรียบเทียบกับค่ามาตรฐาน โดยวิธีนี้จะไม่ทำลายตัวเนื้อของทองคำ สามารถตรวจสอบได้รวดเร็ว และใช้ได้โดยไม่ต้องแกะวัสดุที่บรรจุทองออก ดังนั้น จึงเป็นวิธีเช็คทองแท้หรือทองปลอมที่ดี และให้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างมีประสิทธิภาพ

6. การเช็คด้วย Ultrasound (UT)

อัลตราซาวนด์ เป็นการส่งคลื่นเสียงความถี่สูงผ่านแท่งทองเพื่ออ่านความเร็วเสียงและความหนา โดยหากมีแกนโลหะต่างชนิดหรือช่องว่างจะเกิดสัญญาณสะท้อนผิดปกติ วิธีนี้เป็นวิธีเช็คทองแท้หรือไม่แท้ที่ใช้ตรวจจับการยัดไส้ภายในอย่างโลหะหนักอื่น ๆ ได้ดี ทำให้ไม่ต้องตัดหรือขูดทองให้มีความเสียหาย

7. การใช้ Fire Assay หรือ Touchstone & Acid

การเผาหลอมทอง เป็นวิธีที่ให้ความแม่นยำในการตรวจสอบทองคำมากที่สุด แต่เป็นวิธีเช็คว่าทองจริงหรือปลอมที่ทำให้ตัวทองเกิดความเสียหาย จึงเหมาะกับห้องปฏิบัติการที่ต้องการเช็คทองแท้หรือปลอมอย่างจริงจัง และไม่เหมาะกับทองแท่งบรรจุซอง 

ส่วนการแตะหินหรือหยดกรด (Touchstone & Acid) จะใช้คัดเกรดกะรัตได้ แต่ก็ทำลายผิวและวัดได้เฉพาะบริเวณที่แตะ จึงควรให้ผู้เชี่ยวชาญประเมินความจำเป็นก่อนเลือกใช้วิธีการเช็คทองแท้รูปแบบนี้

8. ทดลองโยนลงบนกระจก

ทองคำมีลักษณะเป็นโลหะที่มีเนื้อนุ่ม ทำให้อาจมีความแข็งที่น้อยกว่าโลหะและทองแดง เพราะฉะนั้นหนึ่งในวิธีการเช็คทองจริงหรือทองปลอมที่ใช้ได้จึงเป็นการโยนกระทบลงกับกระจก หากเกิดเสียงแบบนุ่ม ๆ และไม่ดัง หมายความว่าทองนั้นเป็นทองจริง แต่หากมีเสียงที่ดังเป็นพิเศษ ก็มีโอกาสที่จะเป็นทองปลอมนั่นเอง

9. ทดลองด้วยการใช้เล็บจิกหรือของแข็งกด

การใช้เล็บจิกหรือของแข็งกดที่ตัวทองโดยตรง เป็นหนึ่งในวิธีเช็คทองแท้ไม่แท้ที่สามารถทำได้ง่ายด้วยตัวเอง โดยหากเป็นทองปลอมจะกดไม่ลง เนื่องจากมีความแข็งที่มากกว่าทองปกติ ในขณะที่หากเป็นทองแท้จะเกิดรอยบุ๋มขึ้นได้ง่ายกว่า จากลักษณะของเนื้อทองที่ไม่ได้แข็งมากนักนั่นเอง ทั้งนี้การทดลองโดยใช้แรงกด อาจจะเหมาะสมกับการทดสอบทองรูปพรรณที่มีลักษณะโป่งเท่านั้น ซึ่งไม่รวมถึงทองรูปพรรณที่มีลักษณะตันและทองแท่ง

เอาทองไปให้ร้านทองเช็คได้ไหม? ต้องทำอย่างไรบ้าง?

ร้านทองส่วนใหญ่มักมีบริการตรวจสอบทองอยู่แล้ว ซึ่งเป็นวิธีเช็คทองแท้ที่ดีที่สุด ในการยืนยันความแท้และเปอร์เซ็นต์ทองภายใต้มาตรฐานไทย 96.5% โดยมักใช้ทั้งการดูตราปั๊ม ชั่งน้ำหนัก การทดสอบด้วยกรด และการตรวจด้วยเครื่อง XRF ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่ทำลายชิ้นงาน บอกสัดส่วนโลหะผสมได้ทันที 

ในส่วนของค่าบริการตรวจทองจะแตกต่างกันไป บางร้านอาจตรวจฟรีหากนำไปขาย จำนำ หรือเปลี่ยนทองกับร้านนั้น แต่บางร้านอาจคิดค่าตรวจเล็กน้อย เพราะฉะนั้นควรสอบถามรายละเอียดให้ชัดเจนก่อนใช้บริการนี้

วิธีเช็คทองแท้ บริการที่ให้คุณตรวจสอบทองได้อย่างแม่นยำที่สุด

หลังจากที่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิธีเช็คทองแท้ไปพร้อมกับเราแล้ว หลายท่านน่าจะสามารถเลือกวิธีเช็คทองปลอมทองแท้ที่เหมาะกับทองที่มี และตรวจดูได้ตัวเองบ้างแล้วอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการตรวจกับทองแท่ง กำไลทองคำ ต่างหูทองคำ หรือแหวนทอง 

แต่หากคุณต้องการเช็คทองของคุณ อยากเช็คแหวนว่าเป็นทองแท้หรือทองปลอม หรือตรวจสอบความน่าเชื่อถือของทองคำแท่งที่มีอยู่ ขอแนะนำให้ใช้บริการเช็คทองกับแม่ทองพูล ที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน โดดเด่นด้วยคุณภาพการบริการที่ยอดเยี่ยม ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากมาย ที่สำคัญทางร้านยังมีตัวเลือกทองมากมายให้คุณเลือกดูได้ครบจบในที่เดียวอีกด้วย

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

สินค้าโปรโมชั่น


สินค้าขายดี


logo
บริษัท ห้างทองแม่ทองพูล จำกัด235 - 237 ถนนหน้าเมือง ตำบลในเมือง อำเภอเมืองจังหวัดขอนแก่น 40000ติดต่อสำนักงาน 043 222 540
ช็อปออนไลน์02-222-4934shopping@mthongpoon.com
เวลาทำการจันทร์-เสาร์ 10:00 - 17:00 น. (หยุดทำการในวันนักขัตฤกษ์)
ShopeeLazada
สินค้าของเรา
ความช่วยเหลือ
© 2024 HangthongMaethongpoon Co.,Ltd.