ค่ากําเหน็จทอง คืออะไร ทำไมถึงต้องรู้ก่อนซื้อทอง?

ไม่ว่าใครก็ตามที่เคยซื้อทองเพื่อการเก็งกำไร หรือซื้อทองเพื่อมาสวมใส่ในโอกาสพิเศษต่าง ๆ ล้วนเคยได้ยินคำว่าค่ากำเหน็จทองกันอย่างแน่นอน และคงสงสัยกันว่าค่ากำเหน็จที่ว่าคืออะไรกันแน่ ทำไมร้านทองถึงได้เรียกเก็บทุกร้าน หากคุณอยากรู้ว่าค่ากำเหน็จทองคืออะไร และค่ากำเหน็จของทองแต่ละประเภทคิดยังไง บทความนี้มีคำตอบให้คุณ

ค่ากําเหน็จทอง คืออะไร

ค่ากำเหน็จทอง คือ ค่าจ้างสำหรับขึ้นทองแท่งให้กลายเป็นทองรูปพรรณในลักษณะต่าง ๆ เช่น ต่างหูทองคำ หรือ กำไลทองคำ เป็นต้น ยิ่งทองรูปพรรณมีความปราณีต ราคาค่ากำเหน็จทองจะยิ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำทองลวดลายที่มีความละเอียด ค่ากำเหน็จทองมักจะสูงกว่าทองคำลวดลายอื่น ๆ เพราะมีความซับซ้อนในการขึ้นรูปทองนั่นเอง

ตัวอย่างการคำนวณค่ากําเหน็จทองที่ควรรู้

หากคุณสงสัยว่าค่ากำเหน็จทองคิดยังไง สามารถคำนวณได้จากสูตร

ราคาทองคำที่จ่ายจริง = (ราคาทองรูปพรรณ * น้ำหนักทองหน่วยบาท)+ค่ากำเหน็จที่ทางร้านคิด

ตัวอย่างเช่น สมมติว่าราคาทองรูปพรรณ 1 บาท ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำอยู่ที่ 52,500 บาท และค่ากําเหน็จทอง 1 บาท (2568) ที่ทางร้านคิดคือ 800 บาท ดังนั้นราคาทองคำที่จ่ายจริงจะเท่ากับ

(1*52,500) + 800 =53,300 บาท

จากสูตรดังกล่าว สามารถนำมาใช้ประยุกต์คำนวณราคาทองคำที่จ่ายจริงกับทองคำขนาดน้ำหนักอื่น ๆ ได้ด้วย เช่น แหวนทองคำครึ่งสลึง ราคาทองคำที่ต้องจ่ายจริงจะอยู่ที่ 

(52,500/8+500) 

= 6,563+500 

=7,063 บาท 

ค่ากําเหน็จทองแต่ละร้านคิดเท่ากันไหม

ค่ากำเหน็จทองแต่ละร้านคิดไม่เท่ากัน กล่าวคือ มีปัจจัยมากมายที่ส่งผลต่อค่ากำเหน็จทอง ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

• ค่าจ้างฝีมือช่าง : การขึ้นทองคำแท่งเป็นทองรูปพรรณ ทางร้านจะต้องจ้างช่างฝีมือในการขึ้นทองคำเป็นรูปแบบต่าง ๆ ยิ่งทองรูปพรรณมีลวดลายซับซ้อนมากขึ้นเท่าไหร่ ทางร้านก็ต้องจ้างช่างที่มีฝีมือดี และมากประสบการณ์ ซึ่งแน่นอนว่าค่าจ้างของช่างกลุ่มนี้จะสูงกว่ากลุ่มอื่น ทำให้ค่ากำเหน็จสูงขึ้น
• ต้นทุนทองคำ : ต้นทุนทองคำที่ทางร้านรับมาก็เป็นส่วนหนึ่งของค่ากำเหน็จ ยิ่งทองคำที่ทางร้านได้รับราคาสูง ก็ส่งผลให้ค่ากำเหน็จสูงขึ้นตาม
• ค่าดำเนินการอื่น ๆ : เช่น ค่าเช่าสถานที่, ค่าจ้างพนักงาน ค่าน้ำ-ค่าไฟ ทางร้านทองก็มักจะนำมาคิดคำนวณรวมในค่ากำเหน็จด้วยเช่นเดียวกัน

ไขข้อสงสัย ซื้อทองแท่งต้องเสียค่ากำเหน็จไหม?

การซื้อทองคำแท่งจะไม่เสียค่ากำเหน็จ แต่จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมที่เรียกว่า ‘ค่าบล็อกทองแท่ง’ แทน ซึ่งค่าบล็อกทองแท่งคือค่าใช้จ่ายในการขึ้นรูปทองคำแท่งให้มีลักษณะเป็นบล็อก ในขณะที่ค่ากำเหน็จ คือค่าจ้างที่ทำทองแท่งให้เป็นทองรูปพรรณ ค่าบล็อกทองราคาเท่าไหร่นั้นจะขึ้นอยู่กับน้ำหนักทองเป็นหลัก โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 50 -400 บาท ต่อน้ำหนักทอง 1 บาท

หากคุณต้องการตรวจสอบว่าราคาทองวันนี้ เมื่อรวมค่าบล็อกทองแล้วจะอยู่ที่เท่าไหร่ สามารถคำนวณได้จากสูตร 

ราคาทองคำที่จ่ายจริง = (ราคาทอง * น้ำหนักทอง)+ค่าบล็อก

ตัวอย่างเช่น ทองคำแท่ง 1 บาท ราคา 50,000 บาท คิดค่าบล็อก 200 บาท/บาทน้ำหนักทอง จะได้ราคาทองคำแท่งที่ต้องจ่ายจริงเท่ากับ

(50,000*1)+ 200 = 50,200 บาท

ค่ากําเหน็จทอง คือสิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องรู้ก่อนซื้อทอง

ค่ากำเหน็จทอง คือ สิ่งสำคัญที่ทุกคนควรรู้ เพราะเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองโดยตรง ซึ่งค่ากำเหน็จทองของแต่ละร้านคิดไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ทำเลที่ตั้ง, ค่าดำเนินการ รวมไปถึงต้นทุนราคาทองของทางร้าน และนอกจากจะศึกษาเกี่ยวกับค่ากำเหน็จก่อนซื้อทองแล้ว ก็ควรศึกษาวิธีเช็คทองแท้เบื้องต้นเอาไว้ด้วยเช่นกัน เพื่อให้คุณเป็นเจ้าของทองคำที่ได้มาตรฐานในราคาที่เหมาะสม

หากกำลังมองหาทองคำแท้คุณภาพสูงสำหรับสวมใส่ในโอกาสสุดพิเศษ แม่ทองพูลยินดีให้บริการทองรูปพรรณที่พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของในรูปแบบที่คุณชื่นชอบ ซื้อทองคำกับแม่ทองพูลวันนี้ รับแต้มคะแนนสะสมเพื่อแลกของรางวัลชิ้นใหญ่ได้อีกด้วย

สอบถามเพิ่มเติม

• Facebook : https://www.facebook.com/mthongpoon
• Line : @mthongpoon